ระบบการศึกษาของจีน

ระบบการศึกษาของประเทศจีน

ระบบการศึกษาของจีนถือเป็นระบบการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยนักเรียนที่ศึกษาอยู่ภายใต้ระบบการศึกษาของจีนนั้นคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 20 จากทั่วโลก รัฐบาลจีนจึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทางการศึกษาเป็นอย่างมาก เหนือกว่าการพัฒนาในด้านอื่นๆ

ตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายการศึกษาภาคบังคับ 9 ปีพร้อมทั้งมีการจัดสรรงบประมาณการศึกษาแก่นักเรียนจีน โดยในปัจจุบัน คาดว่าจะมีประชากรราวร้อยละ 93 ของประชากรทั่วประเทศที่จบการศึกษาในภาคบังคับนี้ นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังสนับสนุนให้หน่วยงานทุกระดับและหน่วยงานภาคเอกชนมีบทบาทในการลงทุนหรือการบริหารจัดการด้านการศึกษาอีกด้วย

ระบบการศึกษาจีนมีลักษณะคล้ายกับของสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ไทย และประเทศอื่นๆ จึงมีความสะดวกสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่ประเทศจีน อีกทั้งยังมีสถาบันการศึกษาหลายระดับเพื่อรองรับนักเรียนนักศึกษาต่างชาติ โดยเฉพาะในเมืองสำคัญๆ ของจีน เช่นกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครกวางโจว และเมืองเซี่ยเหมิน เป็นต้น

ระบบการศึกษาของจีน

การศึกษาขั้นสูง

  • มหาวิทยาลัย และสถาบันอุดมศึกษา การศึกษาขั้นสูง อายุ 18-22 ปี
  • มัธยมศึกษาตอนปลายหรืออาชีวศึกษา อายุ 15-18 ปี

การศึกษาภาคบังคับ

  • มัธยมศึกษาตอนต้น อายุ 12-15 ปี
  • ประถมศึกษา อายุ 6-12 ปี

รายละเอียดของเเต่ละระดับ

1. อนุบาล สำหรับเด็ก อายุระหว่าง3 -5 ปี ระยะเวลาศึกษา 3 ปี
2. ประถมศึกษา สำหรับนักเรียนอายุ 6-11 ปี ระยะเวลาศึกษา 6 ปี โดยโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาลท้องถิ่น
3. มัธยมศึกษา สำหรับนักเรียนอายุ 11-17 ปี ระยะเวลาศึกษา6 ปี แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้เเก่

– มัธยมตอนต้น ระยะเวลาศึกษา 3 ปี แบ่งได้เป็น สายสามัญศึกษา เเละ สายอาชีวศึกษา เเละโรงเรียนสำหรับผู้ใหญ่

– มัธยมศึกษาตอนปลาย

4. อุดมศึกษา มีทั้งในลักษณะของสถาบัน (Institutes) วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย โดยระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี จะศึกษา 4-5 ปี แล้วแต่สาขาวิชา (อาจมีการทำวิทยานิพนธ์) ปริญญาโทศึกษา 2-3 ปี และปริญญาเอกประมาณ 3 ปี ซึ่งทั้งปริญญาโท-เอกกำหนดให้ทำวิทยานิพนธ์ก่อนการสำเร็จการศึกษา
5. การศึกษาวิจัยหลังปริญญาเอก โครงการวิจัยหลังจบปริญญาเอกของทางมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยต่างๆในจีน มีกำหนด 2 ปี

ระบบการศึกษาของจีน

การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย

จีนมีระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เข้มงวดและแข่งขันกันสูงมาก โดยนักศึกษาจีนต้องผ่านการสอบคัดเลือกตามที่ทางรัฐบาลกำหนด ในขณะเดียวกันสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ประสงค์จะเรียนในหลักสูตรภาษาจีนจะต้องผ่านหลักสูตรเตรียมความพร้อมด้านภาษาจากมหาวิทยาลัยมาก่อนประมาณ 1-2 ปี แล้วจึงทำการสอบวัดระดับภาษาจีน (HSK) ให้ได้ตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัย (ประมาณระดับ 4-6) และยังมีมหาวิทยาลัยอีกจำนวนหนึ่งที่มีหลักสูตรนานาชาติมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ

ภาคการศึกษาในสถาบันศึกษาส่วนใหญ่แบ่งภาคการศึกษาออกเป็น 2 ภาคการศึกษา

ภาคการศึกษาที่ 1 ตั้งแต่เดือนกันยายน – มกราคม
ภาคการเรียนที่ 2 ตั้งแต่ ปลายกุมภาพันธ์ – มิถุนายน

โดยหนึ่งภาคการศึกษาระยะเวลาประมาณ 20 สัปดาห์ทั้งนี้อาจมีหลักสูตรการศึกษานานาชาติในมหาวิทยาลัยบางแห่งที่มี 3 ภาคการศึกษา

โครงการทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่สำคัญ

1. โครงการ 211 (Project 211)
โครงการนี้เกิดขึ้นในช่วงแผนพัฒนาการศึกษา 5 ปี สมัยที่ 9 ซึ่งเป็นแผนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และเป็นโครงการทางการศึกษาที่สำคัญอันดับต้นๆของรัฐบาลในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มมาตราฐานแก่สถาบันการศึกษาหรือเขตการศึกษาที่สำคัญ ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัย 100 แห่งที่อยู่ในโครงการ (รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะพัฒนามหาวิทยาลัยทั้งหมด 300 แห่ง) โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้านคือ

  •  การพัฒนาศักยภาพของการศึกษา โดยการปฏิรูปการศึกษาและแนวทางการฝึกสอนแก่นักเรียนทั้งทางด้านจิตใจ ความรู้ และบุคลิกภาพ
  •  การพัฒนาสถาบันการศึกษา ให้เป็นศูนย์ในการอบรบพัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพื่อแก้ปัญหาทางด้านสังคม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
  •  การพัฒนาบริการพื้นฐานทางการศึกษาของภาครัฐ โดยการก่อตั้งเครือข่ายการศึกษและการวิจัยของมหาวิทยาลัยที่สำคัญผ่านอินเตอร์เน็ต การวางระบบห้องสมุดและเอกสาประกอบการศึกษา และระบบสื่อการเรียนและอุปกรณ์ที่ทันสมัย

2. โครงการ 985 (Project 985)

โครงการนี้ก่อตั้งมาจากคำกล่าวของประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน ในเดือนพฤษภาคม 1998 โดยมีการจัดหมวดมหาวิทยาลัยที่มีมาตราฐานการศึกษาในระดับแนวหน้าของจีน และจะได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อการพัฒนาจากรัฐบาลกลาง โดยโครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งในแต่ละช่วงจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ 3 ปี

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ borealisnaturopathic.com

Releated